Friday, 24 March 2023

ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์ จับมืออดีต บก.โพสต์ทูเดย์ ปั้นสำนักข่าวใหม่ "The Better"

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ “เดอะ เบทเทอร์” อดีต บก.โพสต์ทูเดย์ประสานมือทายาทรุ่นที่ 2 เครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และก็ผู้ครอบครองสถาบันสอนการลงทุน ปั้นสื่อออนไลน์ พร้อมกอง บก.ล้วนเป็นอดีต บก.ข่าวโพสต์ทูเดย์ เน้นข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน ด้วยทุนเพื่อการจดทะเบียน 20 ล้าน

25 เดือนมกราคม รายงานข่าวสารแจ้งว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด

ได้ทำพิธีเปิดสำนักข่าวที่ชื่อว่า เดอะ เบทเทอร์ (The Better) ที่ห้องเพิร์ลโดม อาคารเพิร์ลบางกอก ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวได้วางรูปแบบให้เป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจและการลงทุน หลังจากได้เปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเพจเป็น The Better news เมื่อวันที่ 27 เดือนพฤศจิกายน 2565

และเริ่มเสนอรายละเอียดไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

สำหรับ บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด มีนายกันตพร หาญพาณิชย์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

และก็โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล พร้อมด้วย นายกระทรวง จารุศิระ ผู้ริเริ่มโครงการซูเปอร์ เทรดเดอร์ ไทยแลนด์ (Super Trader Thailand) แล้วก็นายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รวมทั้งโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นกรรมการบริษัท

นายกันตพรกล่าวว่า ตนไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจสื่อตั้งแต่ต้น แต่ปีที่ผ่านมาได้รู้จักกับนายวุฒิ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักข่าวแห่งนี้ โดยมีสองเรื่องหลักที่ต้องการมองเห็น รวมทั้งนายวุฒิมองเห็นพ้องด้วย คือ พวกเราต้องการทำสื่อที่ดียิ่งกว่า เพื่อเมืองไทยที่ดีกว่าในอนาคต ซึ่งนายวุฒิมีประสบการณ์ด้านข่าวสารสารกว่า 30 ปี กับการนำเสนอ
ในช่องทางที่ดีมากยิ่งกว่า ซึ่งเป็นไปตามยุคตามสมัย สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นหลังที่จะขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ เดอะ เบทเทอร์

อีกเรื่องหนึ่ง คือ นายวุฒิยืนยันความเป็นกลางของสำนักข่าว

ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องสำคัญของสำนักข่าว การที่สำนักข่าวเป็นกลางนั้นพูดง่าย แต่ความเป็นกลางในความหมายของแต่ละคนบางทีอาจแตกต่าง สำหรับตนไม่ได้หมายความว่าพูดถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่ากันแล้วเรียกว่าเป็นกลาง แต่เป็นการเสนอความจริงบนหลักฐานที่ปรากฏชัดเจน ไม่มีการชี้แนะของผู้นำเสนอ ซึ่งหมายถึงนักข่าวหรือสำนักข่าว ซึ่งจะมีประโยชน์แก่ประชาชนที่จะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจให้เกิดผลดีสูงสุด

ด้านนายกระทรวงกล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้จักกับนายวุฒิหลายปี ถือเป็นพี่ชายและก็ผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุด พอทราบว่านายวุฒิมีไอเดียที่จะทำสำนักข่าวแห่งใหม่ ตนก็เลยสนใจ เพราะในมุมของตัวเองทำสถาบันสอนการลงทุน รู้ว่าคนไทยผู้คนจำนวนมากแสวงหาวิชาความรู้ ตนเป็นคนหนึ่งที่พยายามจะไม่เสพข่าวสารอาชญากรรม ไม่ชอบอ่านข่าวสารชาวบ้าน ก่อนหน้านั้นก็จะอ่านข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เอสเอ็มอี เพราะเหตุว่ารู้สึกว่าสามารถพัฒนาตัวเองรวมทั้งมีความรู้ความสามารถมากขึ้น

พอเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้ง ก็เลยมีความคิดว่าพวกเราสามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้มีความรู้และมีความเข้าใจมากขึ้น ผ่านการอ่านสื่อที่มีคุณภาพ เมื่อปณิธานของนายวุฒิและตนตรงกัน ก็กล่าวว่าในมุมของการทำสถาบันสอนการลงทุน มีลูกลูกศิษย์หลายพันคน มีคนที่เก่งในการลงทุนหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน จะนำความรู้ทั้งหมดบนโลกที่เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนมาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อความต้องการตรงกันจึงเป็นพันธกิจที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะถ่ายทอดองค์วิชาความรู้ให้ทุกคนได้เห็นว่าเพราะเหตุไรต้องพัฒนาศักยภาพในตัวเรา เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์

ส่วนนายวุฒิกล่าวว่า นับจากวันที่เจอกับนายกันตพร

ถึงวันที่เริ่มตัดสินใจ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ นายกันตพรรวมทั้งนายกระทรวงเป็นคนสมัยใหม่ที่มีความตั้งใจและก็เชื่อมั่นในสถาบันสื่อ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองไทยดียิ่งขึ้น ที่ผ่านมาตนแล้วก็ทีมงานมีนายทุนหลายกลุ่มเสนอตัวเกื้อหนุน แต่สุดท้ายก็อยากจะอยู่กับนายทุนรุ่นใหม่จริง ๆ ที่ตัดสินใจทำธุรกิจโดยไม่ได้แสวงหาประโยชน์สูงสุดทางธุรกิจ ตนสบายใจที่มาเลือกทั้งสองคน

ทั้งนี้ สิ่งที่อยู่ในใจก็คือ ตนมีประธานที่ขอคำแนะนำ คือ นาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อยู่ในวงการสื่อมา 35 ปี ตนมีประสบการณ์ 30 ปี ส่วนน้อง ๆ ประมาณ 25 ปี

ลดหลั่นกันไป ทุกคนทำข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศขนาดนี้ เสียดายว่าทำไมประเทศไทยหยุดนิ่งอยู่แค่นี้

เพราะเหตุใดความเจริญไม่พัฒนาก้าวไกลไปกว่านี้ ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากการนำเสนอข้อมูลข่าวสารจากสื่อหลายสื่อ สื่อที่ดีมีมาก แต่สื่อที่มีคอนเทนต์แบบมีอคติก็มากมาย สื่อที่บางทีอาจนำเสนอข้อมูลไม่ครบบริบรูณ์ก็มี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความสับสน ไม่ชัดเจน

ตนได้เรียนกับนายกันตพรแล้วก็นายกระทรวงตั้งแต่วันแรกว่า ถ้าจะทำสำนักข่าว จะทำอย่างแรกเป็น เอาเรื่องจริงที่เป็นเรื่องจริงครบบริบรูณ์ ให้คนไทยทุกคน ทุกระดับมีสิทธิ์เข้าถึงเรื่องจริงอย่างเท่าเทียมกัน แล้วรู้ว่าเรื่องจริงเมืองไทยเป็นอย่างไร ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองก็ตาม ทุกคนจะเอาสิ่งนี้ไปพัฒนาตัวเอง ยกระดับคุณภาพของครอบครัว สุดท้าย ธุรกิจเติบโต สังคมไทยดีขึ้น ประเทศไทยก็จะดีขึ้น เป็นคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจจะทำ แล้วก็ทีมงานทุกคนเอาจริงเอาจังที่จะนำเสนอข้อมูลกลุ่มนี้

ทายาทรุ่น 2

รายงานข่าวสารเพิ่มเติมกล่าวว่า เดอะ เบทเทอร์

สำหรับโครงสร้างของสำนักข่าวเดอะ เบทเทอร์ มีนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อดีตบรรณาธิการอำนวยการเครือบางกอกโพสต์ เป็นประธานที่ปรึกษา มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการบริหาร พร้อมทั้ง นายวิษณุ นุ่มทอง อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

แล้วก็อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเมือง

นายชนิกา สุขสมจิตร อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจมหภาค หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และอดีตหัวหน้าข่าวสารเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ, นายเกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
อดีตผู้สื่อข่าวการเงินหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ แล้วก็อดีตหัวหน้าข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเงิน รวมทั้ง น.ส.ดวงใจ จิตต์มงคล เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำหน้าที่สร้างสรรค์เนื้อหาข่าวสารเศรษฐกิจแล้วก็ธุรกิจการตลาด

ข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บอกว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด ลงทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565 ทุนสำหรับจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์

และก็นายกระทรวง จารุศิระ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งกรรมการเซ็นชื่อผูกพัน มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ หรือ นายกระทรวง จารุศิระ

ลงชื่อร่วมกับ นายกันตพร หาญพาณิชย์ หรือ นางสาวชาลิสา พอใช้ได้ หรือ นางสาวลักษมีลาวัลย์ หาญพาณิชย์ รวมเป็นสองคนและก็ประทับตราสำคัญของบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการโรงพิมพ์ มีที่ทำการที่ซอยรามคำแหง 53 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ